เปลี่ยนร่างพังให้ปัง
การฟิตเนสเพื่อให้สรีระเปลี่ยนไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามในการทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เหมาะสมดังที่ใจปราถนา
นอกจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว การรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับการฟิตเนสก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการออกกำลังกาย การลดความเครียดและการมีสมาธิ ก็จะช่วยให้การออกกำลังกายของเรามีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น
ดังนั้น หากคุณต้องการให้การฟิตเนสของคุณเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณควรให้ความสำคัญในการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับการรับประทานอาหารที่เหมาะสม การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการลดความเครียด อีกทั้ง คุณยังต้องเข้าใจถึงหลักการในการลดน้ำหนัก การลดไขมัน และการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน คุณจะได้กำหนดทิศทางในการฟิตหุ่นให้เฟิร์มได้อย่างถูกต้องและอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างแน่นอน!
ไปค่ะ! ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลดไขมันที่ถูกต้องกัน!
ก็เพราะออกกำลังกายมากไปเน้นการลดน้ำหนักแต่ไม่ได้โฟกัสการสร้างมวลกล้ามเนื้อ ตัวอาจจะเล็กลงได้เพราะว่าร่างกายสูญเสียน้ำ และไกลโคเจนมากกว่าไขมันส่วนเกินในร่างกาย
ต้องเข้าใจก่อนว่ามวลกล้ามเนื้อจะมีความหนาแน่นและมีน้ำหนักมากกว่าไขมัน ดังนั้นจึงไม่ควรโฟกัสแค่ตัวเลขน้ำหนักบนตาชั่ง เพียงอย่างเดียวในช่วงลดไขมัน หากเราสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อให้ได้มากกว่าไขมัน น้ำหนักอาจจะไม่ลดลงเลย แต่ตัวจะเล็กลง หุ่นกระชับขึ้นและเฟิร์มขึ้น
แน่นอนที่สุด ร่างกายคนเราต้องมีไขมัน เพื่อที่จะเป็นตัวปรับระดับฮอร์โมนเพื่อดูดซึมวิตามินชนิดละลายในไขมัน และปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปรกติ แต่ถ้ามีเยอะไป มันก็จะทำให้เราตัวนิ่ม และไม่มีโทนกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหากเรามีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น นอกจากเราจะดูฟิต เฟิร์ม กระชับ เนื้อแน่นขึ้นแล้ว มวลกล้ามเนื้อยังจะมาช่วยเร่งการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมให้ทำงานมากขึ้นอีกด้วย
คนส่วนใหญ่ที่ลดน้ำหนักจะถือเกณฑ์การวัดค่า BMI จากเครื่องชั่งน้ำหนักเป็นตัววัดว่าความอ้วนอยู่ในระดับใด ซึ่งจริงๆ แล้ว มวลกล้ามเนื้อจะไม่เกี่ยวกับค่า BMI เพราะ BMI มาจากการเอาน้ำหนักและส่วนสูงมาคำนวณ แต่ไม่ได้วัดเปอร์เซ็นต์ปริมาณไขมันและมวลกล้ามเนื้อที่เฉพาะเจาะจง ค่า BMI จะเป็นเพียงตัวบอกเกณฑ์ระดับของความอ้วนแบบคร่าวๆ ในขั้นพื้นฐานมากกว่าการวัดค่าไขมันและมวลกล้ามเนื้อ ดังนั้น ค่า BMI จึงไม่เหมาะกับคนออกกำลังกายสักเท่าใดนัก
สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ถึงแม้ว่าน้ำหนักหรือ ค่า BMI เราจะอยู่ในเกณฑ์ปกติและไม่ได้ดูอ้วน แต่ในสัดส่วนที่ปกตินั้น หากมีปริมาณไขมันในเส้นเลือดมากกว่ามวลกล้ามเนื้อ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงเฉกเช่นเดียวกันกับคนอ้วนเลยทีเดียว
จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันส่วนเกินในร่างกายสูง มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยเรื้อรัง และเสียชีวิตได้ การมีไขมันส่วนเกิน ไม่เพียงแค่ร่างกายไม่เฟิร์ม สวมใส่เสื้อผ้าแล้วไม่มั่นใจ แต่ไขมันส่วนเกินยังเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน ความดันสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น
ทีนี้ก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่า ที่เราตัวนิ่ม ร่างกายไม่เฟิร์ม เพราะเราอาจจะมีมวลกล้ามเนื้อน้อยเกินไปและยังมีไขมันส่วนเกินอยู่มาก ดังนั้น การที่จะทำให้ร่างกายฟิตสมดังใจปรารถนา เราก็ต้องก็ต้องสร้างกล้ามเนื้อให้มาทดแทนไขมันหรือมากกว่าไขมันที่มีอยู่ในร่างกายนั่นเอง
เปอร์เซ็นต์ไขมัน (Body Fat Percentage) คือ การวัดปริมาณไขมันในร่างกายเป็นเปอร์เซ็นต์โดยการนำน้ำหนักไขมันทั้งหมดในร่างกายมาหารด้วยน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย แล้วคูณด้วย 100 เพื่อแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ การวัดเปอร์เซ็นต์ไขมันสามารถทำได้โดยวิธีต่างๆ วิธีที่นิยมใช้ก็คือ
ปัจจัยที่ทำให้ Body Fat Percentage ไม่เท่ากัน
จะสังเกตุได้ว่าได้แม้น้ำหนักตัวเท่ากัน สัดส่วนพอ ๆ กัน แต่อาจมี Body Fat Percentage แตกต่างกันก็ได้ หรือคนผอมก็อาจมี Body fat มากกว่าคนที่รูปร่างอวบอ้วนก็ได้ เนื่องจากไขมันในร่างกายของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปตามปัจจัย ดังนี้
* เพศ: โดยธรรมชาติผู้หญิงจะมีสัดส่วนไขมันมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว เพราะต้องใช้เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร ซึ่งร่างกายจะดึงไขมันไปใช้ผลิตน้ำนม ขณะที่ผู้ชายเป็นเพศที่ใช้กล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง จึงมีสัดส่วนไขมันที่น้อยกว่า
* พันธุกรรม: เช่น ร่างกายบางคนกักเก็บไขมันได้มากกว่า
* การรับประทานอาหาร: เช่น ชอบกินอาหารมัน ๆ ของทอด อาหารรสหวาน ที่สุดท้ายแล้วน้ำตาลก็จะกลายเป็นไขมันสะสมตามร่างกาย
* ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต: เช่น ดื่มหนัก ปาร์ตี้บ่อย นอนดึก เครียด ซึ่งอาจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ส่งผลให้อยากกินอาหารรสหวาน รวมไปถึงการกินมื้อดึก ดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานส่วนเกินเยอะ และไม่สามารถเผาผลาญแคลอรีได้หมด
* อายุที่มากขึ้น: ส่งผลให้การเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานลดลง
* กิจวัตรประจำวัน: คนที่เคลื่อนไหวร่างกายอยู่บ่อย ๆ หรือออกกำลังกายเป็นประจำ อาจมีเปอร์เซ็นต์ไขมันน้อยกว่าคนที่มีพฤติกรรมเนือยๆ นิ่งๆ
จากตาราง จะเห็นได้ว่า นักกีฬามักจะมี Body Fat Percentage ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากออกกำลังกายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง หรือปั่นจักรยาน ซึ่งคนที่มี Body Fat ต่ำมากเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อต่าง ๆ จากการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงผู้ป่วยโรคกินผิดปกติ กินน้อย กินแล้วพยายามอาเจียนออก หรือผู้หญิงที่มีภาวะขาดประจำเดือน กลุ่มนี้ก็จะมี Body Fat ในร่างกายน้อย และมักจะเสี่ยงโรคกระดูกหักล้า (Stress Fractures) หรือโรคกระดูกพรุนได้
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การลดไขมันอาจเป็นเรื่องที่ยากและต้องอาศัยความทุ่มเท และอดทนอย่างมาก แต่ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและแนวทางที่ถูกต้อง คุณจะสามารถบรรลุเป้าหมายและมีรูปร่างที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่ไม่ลับ เกี่ยวกับวิธีลดไขมันและรักษาระดับไขมันไว้ให้ได้ตลอดไป
ควรกำหนดเวลาให้ชัดเจน ต้องการลดส่วนไหน ไหนระยะเวลาเท่าไหร่ ควรกำหนดให้แน่นอน เช่น ลดต้นขา 2-3 นิ้ว ภายใน 4 เดือน ลดเอว 2 นิ้วใน 3 เดือน
เป้าหมายในการลดไขมันที่เป็นไปได้ คือ ประมาณ 1-2% ต่อเดือน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอดี เมื่อเป้าหมายชัดเจน ก็เริ่มลุยกันเลย!
การลดไขมันคือการวางแผนการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งหมายถึงการรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งมีแคลอรี่หรือไขมันต่ำและมีสารอาหารสูง เน้นการรับประทานโปรตีนไม่ติดมันหรือโปรตีนจากพืช คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ อาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา อกไก่ เนื้อไม่ติดมัน ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีกรดไขมันดีที่ช่วยลดไขมันเลวได้ เช่น อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง ปลาทะเล เป็นต้น หลีก
เลี่ยงอาหารแปรรูป ขนมหวาน แอลกอฮอร์ และอาหารจานด่วน ควรทานผักและผลไม้รวมทั้งเมล็ดธัญพืชในปริมาณที่เพียงพอเพื่อความหลากหลายจากแหล่งที่มาของสารอาหาร การลดไขมันไม่เน้นทานน้อย แต่ทานแบบมีคุณภาพ
ปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมคือ 10-11 แคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ ไม่ควรทานน้อยไปกว่านี้ เพราะร่างกายเราจะเครียด พอมีคอร์ติซอลก็จะทำใหพุงป่อง การทานน้อยถึงแม้ว่าจะผอมลงได้ แต่ระบบเผาผลาญอาจจะพังได้เช่นกัน
ในการเผาผลาญไขมัน คุณต้องเพิ่มระดับกิจกรรมของคุณให้มากขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงแค่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวแแต่อาจเป็นการทำกิจกรรมภายในบ้านเช่น รีดผ้า ทำสวน หรือเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เป็นต้น
สำหรับการออกกำลังกาย ให้ทำสลับกันระหว่างคาดิโอและเวทเทรนนิ่งเพราะการคาดิโอจะช่วยลดไขมันได้ดี แต่การเวทจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและช่วยทำให้ร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น และเมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สามารถทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานขึ้น แม้จะเลิกออกกำลังกายไปแล้วก็ตาม และที่สำคัญควรเพิ่มระยะเวลาการออกกำลังกายให้มากขึ้นในกรณีของคนที่ออกกำลังกายซ้ำๆ แบบเดิมๆ และยังไม่เห็นผล
การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดไขมัน เมื่อคุณนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายของคุณจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การกักเก็บไขมันที่เพิ่มขึ้น ตั้งเป้านอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดไขมัน น้ำช่วยล้างสารพิษและทำให้ร่างกายของคุณชุ่มชื้น ตั้งเป้าดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วหรือ 2-3 ลิตรต่อวัน
ความเครียดสามารถนำไปสู่การสะสมไขมันที่เพิ่มขึ้น พยายามลดความเครียดในชีวิตด้วยการให้เวลากับตัวเองและทำกิจกรรมที่คุณชอบ
เข้าใจว่าคุณจดจ่ออยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ตัวเลขบนตาชั่งที่ลดลงมันอาจทำให้คุณมีความรู้สึกดีใจและตื่นเต้นกับผลลัพธ์ แต่การชั่งน้ำหนักบ่อยๆ มันอาจจะทำให้คุณเครียดและจดจ่ออยู่แต่กับตัวเลขมากเกินไป โดยเฉพาะเวลาที่ตัวเลขไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจหวัง ในบางวันที่คุณอาจหลงทานโซเดียมมากไปร่างกายอาจบวมน้ำและน้ำหนักอาจจะเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น อย่าใสใจแค่ตัวเลขบนตาชั่ง แต่โฟกัสที่ความเฟิร์มกระชับ โดยการหันมาวัดสัดส่วน เช่น เอว ต้นขา ต้นแขนแทนการชั่งน้ำหนักจะดีกว่า
การติดตามความคืบหน้าของคุณมีความสำคัญต่อการสร้างแรงจูงใจและเห็นผลลัพธ์ ติดตามน้ำหนัก ขนาดร่างกาย และความรู้สึกของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณติดตามและปรับเปลี่ยนการลดไขมันได้ตามต้องการ ให้รางวัลกับตนเองบ้าง เพื่อสร้างความสุขตลอดเส้นทางสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
ถ้าน้ำหนักนิ่งและไขมันไม่ลดแนะนำให้คุณลองปรับเปลี่ยนการลดไขมันให้เหมาะสมกับตนเอง เช่น ออกกำลังกายแบบใหม่หรือเพิ่มระยะเวลาการออกกำลังกายให้มากขึ้น หรือเพิ่มแคลอรี่ที่เป็นสัดส่วนของโปรตีนและลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง เป็นต้น
การใช้ตัวช่วยหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ปลอดภัยก็อาจเป็นอีก 1 ทางเลือกของคนที่ทำทุกวิถีทางแล้วทำไม่ได้จริงๆ!
ตัวช่วยหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ปลอดภัยก็อาจเป็นอีก 1 ทางเลือกของคนที่ทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ใจปราถนาจริงๆ!
การสร้างกล้ามเนื้อมีหลักการที่ต้องปฏิบัติอย่างเหมาะสม โดยจะต้องคำนึงถึงหลายองค์ประกอบควบคู่กัน เช่น ดัชนีมวลกล้ามเนื้อ (Muscle Mass Index) การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น การออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance training) ซึ่งเป็นการฝึกออกกำลังกายโดยใช้ความต้านทานในการเคลื่อนไหว เพื่อเสริมสร้างและเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ โดยใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนัก เช่นดัมเบล แผ่นหิน หรือเครื่องจักรออกกำลังกาย โดยการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อในร่างกาย และส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง
อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้คือการทานอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่นการทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนเพียงพอ เนื่องจากโปรตีนเป็นส่วนสำคัญของการสร้างกล้ามเนื้อ และทานอาหารที่มีสัดส่วนของ ไขมันดี คาร์โบไฮเดรด วิตามินและแร่ธาตุ ผัก ผลไม้ต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
นอกจากการออกกำลังกายและการทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว ยังมีการปฏิบัติอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อส่งเสริมให้การเพิ่มกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การทานน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพราะการทานน้ำมีบทบาทสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ เนื่องจากเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อประกอบด้วยน้ำอยู่ประมาณ 70-75% ดังนั้นการบริโภคน้ำที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายมีน้ำพอเพียงเพื่อสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้และลดการเกิดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อรวมถึงลดโซเดียมที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการตัวบวมได้ และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการพักผ่อนที่เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง สำหรับมือใหม่เริ่มฟิต ลองเริ่มต้นตามนี้ได้เลย
ออกกำลังกายโดยเน้นการเล่นเวทเทรนนิ่งเป็นหลักอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30-60 นาที และในวันที่ไม่เล่นเวทเทรนนิ่ง ให้เล่น High Intensity Interval Training (HIIT) โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้น
สำหรับท่านที่ไม่ได้ออกกำลังกายแบบเวทโดยใช้อุปกรณ์มาก่อน ให้เริ่มออกกำลังกายด้วยการใช้น้ำหนักตัวก่อน เพื่อเป็นการวอร์มและเตรียมร่างกาย เช่น ทำท่า Squat, Push Up, Plank เป็นต้น
3. ในการเล่นเวทเทรนนิ่ง ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักที่ยกหรือเพิ่มความท้าทายขึ้นเรื่อยๆ เช่น ใช้ดัมเบลในการทำท่า Squat เป็นต้น
ทานอาหารโดยเฉพาะจำพวกโปรตีนสูงที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติให้มากที่สุด ทานโปรตีนให้ได้ 1.5-2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ไข่ อกไก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เต้าหู้ เทมเป้ และอาหารทะเล เป็นต้น ในกรณีที่ทานโปรตีนธรรมชาติได้ไม่ถึง ใช้เวย์โปรตีนหรือเชคที่มีโปรตีนและสารอาหารครบถ้วนคุณภาพดีๆ ช่วยเสริมได้
ข้อนี้สำคัญมาก คือ อย่าเครียด อย่าหักโหม อย่ากดดันตัวเองจนเกินไป เพราะความเครียดเป็นตัวการร้ายที่จะทำให้เราไปไม่ถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจไว้ ค่อยๆ ปรับและเปลี่ยนตามความสะดวกและเหมาะสมกับตนเอง แค่นี้คุณก็มีกล้ามเนื้อสวยๆ ได้ดังใจแล้ว
อาหารบำรุงเซลล์ ให้พลังงานเพียง 120 แคลลอรี่ มีทั้งโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุถึง 24 ชนิด รวมถึง จุลินทรีย์ ใยอาหาร สารสีเขียว นอกจากจะช่วยเติมเต็มพลังงานและกล้ามเนื้อที่สึกหรอแล้ว ยังช่วยบำรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟู ป้องกัน ส่งเสริมภูมิต้านทานได้อีกด้วย รสชาดสุดแสนอร่อย ทั้งรสช็อคโลแลตและวานิลลา ทานควบคู่เม็ดพลังงาน Energy จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!
QuiAri Shake เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้คุณฟื้นตัวจากการออกกำลังกาย นอกจากรสชาดที่สุดแสนอร่อย และยังให้โปรตีนและสารต้านอนุมูลอิสระจาก Maqui Berry อันทรงพลัง รวมทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และผักใบเขียว! ส่วนผสมทั้งหมดเหล่านี้สนับสนุนการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและพลังงานของคุณได้อย่างดีเยี่ยม! คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อคุณดื่ม QuiAri Shake ทันทีหลังการออกกำลังกาย
กระตุ้นพลังงาน เผาผลาญไขมัน ล้างสารพิษ สมองปลอดโปร่ง โล่ง สบาย ลดความอยากน้ำตาล เห็นผลฉับไว ใน 5-15 นาที!
จัดพลังงานให้อยู่ในมือคุณด้วย QuiAri Energy ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากชาเขียวและเมล็ดกาแฟ และส่วนผสมพิเศษของ Maqui Berry และ MaquiX® ที่อัดแน่นเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มันคือพลังงานและโภชนาการทั้งหมดใน 1 เม็ดที่ง่ายต่อการทาน! ที่คุณจะทึ่งในผลลัพธ์! นอกจาก Energy จะช่วยเสริมพลังงานให้คุณสามารถฟิตเนสหรือออกกำลังกายได้ยาวนานขึ้น ยังทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงเหงาหาวนอน สมองปลอดโปร่ง โล่ง สบาย และที่สำคัญยังช่วยลดความอยากน้ำตาลได้อย่างดีทีเดียว!
เว็บไซต์ https://theyouthsystem.com/ มีการใช้งานเทคโนโลยีคุกกี้ หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับคุกกี้ บนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษา นโยบายการใช้คุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ก่อนใช้บริการเว็บไซต์ ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง